วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิชา ฐานข้อมูลเบื้องต้น การบ้านบทที่ 3 ประจำวันที่ 17 พฤศจิกายน 2553

วิชา ฐานข้อมูลเบื้องต้น การบ้านบทที่ 3 ประจำวันที่ 17 พฤศจิกายน 2553 


1.   การแบ่งสถาปัตยกรรมของฐานข้อมูลออกเป็น 3 ระดับ มีไว้เพื่่อวัตถุประสงค์ใดเป็นสำคัญ
 ตอบ    สถาปัตยกรรมฐานข้อมูล มี 3 ระดับ  ได้แก่


                                 -  ระดับภายนอก หรือ วิว ( External หรือ view )  

                               ระดับภายนอกหรือวิว  เป็นระดับของข้อมูลที่ประกอบด้วยภาพที่ผู้ใช้แต่ละคนมอง   ข้อมูล  
    (  View  )  เค้าร่างของฐานขั้อมูลระดับนี้จะเกิดภาพและความต้องการของข้อมูลของผู้ใช้
                                 -  ระดับแนวคิด ( Conceptual Level )

             ประกอบด้วยเค้าร่างที่อธิบายถึงฐานข้อมูลรวมว่ามีเอนทิตี้     โครงสร้างของข้อมูล                                                   ความสัมพันธ์ของข้อมูล  กฎเกณฑ์และข้อจำกัดต่าง ๆ อย่างไรบ้าง   ข้อมูลในระดับนี้เป็นข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์               และออกแบบฐานข้อมูลต่าง ๆ ในระดับภายนอกสามารถเรียกใช้ข้อมูลได้  ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปในระดับภายนอก  อาจจะ   ต้องการใช้ข้อมูลที่แตกต่างกัน 

                                -  ระดับภานใน ( Internal หรือ Physical Level )

                                     ระดับภายใน  ประกอบด้วยเค้าร่างที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บข้อมูลจริง ๆ  ว่ามีโครงสร้างการจัดเก็บรูปแบบใด  รวมถึงวิธีการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ในฐานข้อมูลเพื่อดึงข้อมูลที่ต้องการ  เช่น  การอินเด็กซ์  เป็นต้น  ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลระดับต่าง ๆ จะถูกจัดการโดยระบบการจัดการฐานข้อมูล  ซึ่งเป็นการแปลความหมายของข้อมูลจากระดับหนึ่งไปยังอีกระดับหนึ่งนี้เรียกว่า  การแปลส่ง



2.   ความเป็นอิสระของข้อมูลมีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อการจัดการฐานข้อมูล จงอธิบาย
ตอบ        ความเป็นอิสระของข้อมูลมีบทบาทที่สำคัญมากต่อการจัดการฐานข้อมูล เพราะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโครงสร้างข้อมูลในระดับภายในหรือระดับแนวคิดจะไม่มีผลกระทบต่อโปรแกรมที่ผู้ใช้ใช้งานอยู่ในระดับภายนอก



3. ปัญหาที่สำคัญของ Hierarchical Model คืออะไร และเหตุใด Hierarchical Model จึงไม่สามารถลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้ทั้งหมด
       
         ตอบ  ปัญหาที่สำคัญของ Hierarchical Model คือ มีโอกาสเกิดความซ้ำซ้อนของข้อมูลมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับระบบฐานข้อมูลแบบโครงสร้าง และเหตุ Hierarchical Model ไม่สามารถลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้ทั้งหมดเป็นเพราะหากข้อมูลมีจำนวนมาก การเข้าถึงข้อมูลจะใช้เวลานานในการค้นหา เนื่องจากจะต้องเข้าถึงจุดกำเนิดของข้อมูลและต้องค้นหาข้อมูลแบบมีเงื่อนไขเป็นลำดับและออกแบบเรียงลำดับต่อเนื่อง




4. เหตุใด Network Model ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้จึงไม่เหมาะกับการนำมาใช้งาน
     
 
  ตอบ         -  ลักษณะฐานข้อมูลนี้จะคล้ายกับลักษณะฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น จะมีข้อแตกต่างกันตรงที่ในลักษณะฐานข้อมูลแบบเครือข่ายนี้สามารถมีต้นกำเนิดของข้อมูลได้มากกว่า 1 และยินยอมให้ระดับชั้นที่อยู่เหนือกว่าจะมีได้หลายแฟ้มข้อมูลถึงแม้ว่าระดับชั้นถัดลงมาจะมีเพียงแฟ้มข้อมูลเดียว ลักษณะโครงสร้างระบบฐานข้อมูลแบบเครือข่ายจะมีโครงสร้างของข้อมูลแต่ละแฟ้มข้อมูลมีความสัมพันธ์คล้ายร่างแห
           1. ความสัมพันธ์ข้อมูลที่เชื่อมโยงกันไปมาทำให้ยากต่อการใช้งาน
           2. ผู้ใช้ต้องเข้าใจโครงสร้างของฐานข้อมูล
           3. เหมาะสำหรับโปรแกรมเมอร์ที่คุ้นเคย ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
           4. มีค่าใช้จ่ายและสิ้นเปลืองพื้นที่ในหน่วยความจำเพราะจะเสียพื้นที่ในอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำหรับตัวบ่งชี้มาก
           5.โครงสร้างแบบเครือข่ายเป็นโครงสร้างที่ง่ายไม่ซับซ้อนเนื่องจากไม่ต้องอ่านแฟ้มข้อมูลที่เป็นต้นกำเนิดก่อน จึงทำให้ป้องกันความลับของข้อมูลได้ยาก


 5.สิ่งที่ทำให้ Relational Model ได้รับความนิยมอย่างมากคืออะไร จงอธิบาย
ตอบ
  • เหมาะกับงานที่เลือกดูข้อมูลแบบมีเงื่อนไขหลายคีย์ฟิลด์ข้อมูล
  • ป้องกันข้อมูลถูกทำลายหรือแก้ไขได้ดี เนื่องจากโครงสร้างแบบสัมพันธ์นี้ผู้ใช้จะไม่ทราบว่าการเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลอย่างแท้จริงเป็นอย่างไร จึงสามารถป้องกันข้อมูลถูกทำลายหรือถูกแก้ไขได้ดี
  • การเลือกดูข้อมูลทำได้ง่าย มีความซับซ้อนของข้อมูลระหว่างแฟ้มต่าง ๆ น้อยมาก อาจมีการฝึกฝนเพียงเล็กน้อยก็สามารถใช้งานได้
  • เมื่อผู้ใช้ต้องการข้อมูลในตารางจะใช้วิธีเปรียบเทียบค่าของข้อมูลแทน โดยไม่ต้องรู้ว่าข้อมูลนั้นเก็บอย่างไร โดยแค่บอกกับ DBMS ว่าต้องการข้อมูลจากตารางใด ที่มีค่าในคอลัมน์ใด เป็นต้น
  • ง่ายในการทำความเข้าใจ
  • ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน 







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น